มีหลายคนสงสัย เเละตั้งสมมติฐานมากมายต่อการมีอยู่ของสโตนเฮนจ์ คาดเดากันไปต่างๆนานาถึงจุดประสงค์ที่เเท้จริงของผู้ที่สร้างมันขึ้นมา พวกเขาต้องการอะไร ลากก้อนหินหนักๆมาตั้งเอาไว้ได้อย่างไร?
เราอาจจะลองศึกษาเเนวคิดในการสร้าง Georgia guidestones กันเพื่อให้เห็นภาพว่า นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายร้อย หลายพันปีก่อน
Georgia guidestones ถูกสร้างขึ้นมาในช่วง 1980s ในรัฐจอร์เจีย,สหรัฐฯ ด้วยคนงานเเละด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย มันถูกสร้างขึ้นมาจากหินแกรนิตหลายร้อยตัน ที่น่าจะอยู่ได้นานหลายร้อยปี มันถูกสลักไว้ด้วยข้อความ 8 ภาษา ที่มีเนื้อหาถึงกฎข้อบังคับ ว่ามนุษย์ควรปฏิบัติตนอย่างไรหลังวันสิ้นโลก!?!

ดูเหมือนเป็นเรื่องที่เข้าท่าไม่น้อยในการส่งสารไปสู่โลกอนาคต ถ้าสมมุติว่าเกิดวันสิ้นโลกขึ้นมาจริงๆ
อาจไม่มีเทคโนโลยีใดๆที่สามารถใช้ได้ , บางภาษาอาจจะตายไปเเล้ว , ผู้คนอาจต้องการเเสงนำทางบางอย่างที่จะชี้นำชีวิต ซึ่งปฏิมากรรมนี้อาจจะทำให้คนในยุคนั้นมีความหวังขึ้นมาก็ได้
คนที่จ่ายเงินให้กับงานก่อสร้างนี้ไม่ได้เปิดเผยตัวตน เเต่ใช้นามเเฝงว่า Robert C. Christian ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ที่เเท้จริงของเขา บ้างก็เชื่อว่าเขาต้องการล้มล้างทฤษฎีในการมีอยู่ของพระเจ้า หรือเขาอยากจะยกย่องความเป็นคริสเตียนในตัวเขา หรือเเท้จริงเเล้วเขาอยากจะเป็นพระเจ้าเสียเอง หรือเขาอยากจะสร้างโมเดิร์นสโตนเฮนจ์ ที่มีความหมาย ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงหลังวันสิ้นโลก
หรือเป็นเเค่…มหาเศรษฐีคนหนึ่งที่เห็นสโตนเฮนจ์ เเละเกิดความรู้สึกว่า “ฉันอยากมีเเบบนี้บ้าง” แค่นั้น
การไม่เปิดเผยตัวตนของผู้สร้างเเบบนี้ มีเเต่จะทำให้เกิดความสงสัยมากขึ้นเท่านั้น เเละการใช้นามเเฝง ที่มีชื่อ “คริสเตียน” อาจทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นเชื่อว่า สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์มากกว่าความคิดเห็นของคนๆหนึ่ง ที่อยากมีข้อความจารึกที่ตัวเองชื่นชอบ ฝากไว้ให้คนอื่นได้รับรู้ ในอีกร้อยปีข้างหน้า
คนที่สร้างมันบอกเเต่เพียงว่ามันสามารถใช้เป็นเข็มทิศ , ปฏิทิน เเละนาฬิกาได้ โดยใช้เเค่การเคลื่อนไหวของเเสงจากดวงอาทิตย์เเละดวงจันทร์
เเต่ความสงสัยใคร่รู้ของมนุษย์อาจจะไม่หยุดอยู่เเค่นั้น ทฤษฎีต่างๆจึงถือกำเนิดขึ้น ( conspiracy theory )
ในอนาคตอาจจะมีคนที่มีไอเดียเเบบนี้เหมือนๆกันทั่วทุกมุมโลก พวกเขาอาจจะสร้างกฎบางอย่างขึ้นในเเบบที่พวกเขาเชื่อ ซึ่งอาจเป็นชุดความคิดที่อาจจะขัดเเย้งกับเเนวความคิดจากเเท่งหินอื่นๆ เเละอาจจะนำมาซึ่งความขัดเเย้งกันทางความคิด จนบานปลายได้ในท้ายที่สุด ถึงเเม้ว่าเเท่งหินเหล่านั้นอาจจะถูกเขียนขึ้นมาจากคนๆเดียวกันก็ตาม
ผู้คนอาจจะเชื่อว่า เเท่งหินที่ตัวเองได้เห็นนั้นคือสิ่งที่เที่ยงเเท้ที่สุด เพราะพวกเขายึดถือมาโดยตลอด มันทำให้พวกเขามีชีวิตรอดเเละนำมาซึ่งความสงบสุข
เป็นเเท่งหินที่ถูกทำขึ้น เพื่อให้คนที่มีชีวิตรอดหลังวันสิ้นโลกได้ปฏิบัติตาม ให้เป็นที่พักพิงในยามที่ไร้ซึ่งความหวัง ให้เป็นสิ่ง “ยึดเหนี่ยว” จิตใจ ที่อาจเป็นสิ่ง “ยึดติด” ได้ในท้ายที่สุด
เเท้ที่จริง หลักการอยู่ร่วมกันอย่างอย่างสันติสุข คือ การที่คนในกลุ่มปฏิบัติตามกฎของกลุ่มในอาณาบริเวณที่กลุ่มของตัวเองได้กำหนดไว้ ไม่ได้เกี่ยวกันเลยว่าหลักการของหินก้อนไหนจะเป็นสิ่งที่เที่ยงเเท้ที่สุด ถ้าผู้คนพบว่าตัวเองมีความสงบสุขดี ที่ได้ปฎิบัติตามหินก้อนนั้น นั้นก็หมายถึง หินก้อนนั้นเป็นสิ่งที่เที่ยงเเท้สำหรับคนในกลุ่มนั้น ที่อาจ “ไม่จำเป็น” ต้องเที่ยงเเท้สำหรับคนในกลุ่มอื่น
นี่อาจเป็นเรื่องที่ดี เเละเต็มเปี่ยมไปด้วยเเรงบันดาลใจ ในการสร้างปฏิมากรรมหินปริศนาก้อนนี้ขึ้นมา เเต่ในทางกลับกันมันอาจจะมีเนื้อหาบางอย่างที่มีความคลุมเครือเเละสามารถตีความไปได้ต่างๆนานาเเม้ว่ามันจะเป็นก้อนหินเดียวกันกับที่ทุกๆคนเห็นก็ตาม อย่างเช่นในข้อนึงบอกว่า “ควรคิดให้ดีก่อนที่จะมีการสืบพันธุ์” หรือข้อความประมาณว่า “พยายามจำกัดประชากรโลกให้อยู่ที่ 10 % จากประชากรที่มีอยู่ในปัจจุบัน” ซึ่งผู้คนอาจจะตีความไปได้หลายด้าน เช่น ถ้าจำนวนประชากรเกินหละ ควรทำยังไง?
เเละนี่คือข้อความที่ถูกสลักไว้บนเเท่งหิน
1. รักษาจำนวนประชากรมนุษย์เอาไว้ไม่เกิน 500,000,000 เพื่อสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติ
2. รอบคอบในการขยายพันธุ์ รักษาร่างกายให้เเข็งเเรง เเละความหลากหลายทางเชื้อชาติ
3. รวบรวมมนุษยชาติเอาไว้ ด้วยภาษาใหม่
4. มีความมุ่งมั่น , ความหวัง, ประเพณี ด้วยเหตุผลที่สมควร
5. ปกป้องผู้คนเเละชาติด้วยกฎหมายที่ยุติธรรมในชั้นศาล
6. ให้ทุกๆชาติวางกฎเพื่อเเก้ปัญหาร่วมกัน ในข้อพิพาทที่เกิดขึ้นภายนอกศาลยุติธรรม
7. หลีกเลี่ยงกฎเล็กๆน้อย เเละข้อปฏิบัติที่ไร้ประโยชน์
8. รักษาสมดุลของหลักสิทธิมนุษยชนกับหน้าที่ทางสังคม
9. ให้คุณค่าต่อความจริง , ความงาม, ความรัก ค้นหาความสมดุลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
10. อย่าทำลายโลก ให้พื้นที่เเก่ธรรมชาติ ให้พื้นที่เเก่ธรรมชาติ

ลองจินตนาการว่าตัวคุณเองสามารถเอาชีวิตรอดได้หลังวันสิ้นโลกเหมือนในหนัง คุณเป็นผู้รอดชีวิต เเละดูเหมือนว่าตัวคุณไม่สามารถติดต่อหาใครได้เลย
อาจจะมีผู้รอดชีวิตอยู่บ้างบางส่วน อาหารของพวกเขาอาจจะใกล้หมดลงทุกที พวกเขาอาจเดินทางเพื่อหาอาหารกินไปวันๆ หรือออกตามหาความหมายบางอย่างในชีวิต เพราะดูเหมือนว่า ไม่มีใครอยู่เลยรอบๆตัวที่คอยเคียงข้าง คอยชื่นชม เเละชื่อเสียงเงินทองนั้นไม่มีความหมายอีกต่อไป
เมื่อผู้รอดชีวิตไร้ที่พึ่งเหล่านั้น ได้บังเอิญเห็นก้อนหินปริศนาก้อนนี้ ลองคิดดูว่าพวกเขาจะจินตนาการ เเล้วคิดไปไกลขนาดไหน
พวกเขาจะ “ยัง” มองว่า…นี่เป็นเเท่งหินที่ถูกสร้างขึ้นมาสนุกๆจากเศรษฐีที่ชื่นชอบเรื่องราวลี้ลับอยู่รึเปล่า หรือมองว่ามันคือความหมายบางอย่างในชีวิต ที่เอาเข้าจริงๆมันก็สามารถกันเเดดกันฝนได้เป็นอย่างดี
อาจจะมีเเท่งหินเเบบนี้เกิดขึ้นอีกมากมายในอนาคต ในรูปแบบที่ต่างออกไป ที่ท้าทายความคิดของผู้ที่ได้พบเจอ
ซึ่งอาจจะเหมือนกับเเท่งหินที่คุณมี หรืออาจจะไม่…
ติดตามเพจ:
0 comments on “สโตนเฮนจ์ หรือ สิ่งลี้ลับทั่วโลก อาจจะเกิดขึ้นมาจากเหตุผลเเบบนี้?”