คุณอาจลองเสิร์ชหา ความงดงามทางด้านศิลปะ หรือเรื่องราวลี้ลับ ของโมนาลิซา คุณจะเจอทฤษฎีต่างๆมากมายในอินเทอร์เน็ต(เเละคนก็ชอบอ่านด้วย) เเต่ทำไมมันถึงได้มีชื่อเสียงเกินหน้าเกินตา งานศิลปะอื่นๆของดาวินชีล่ะ? ผู้จัดงานในพิพิธภัณฑ์ Louve กล่าวว่า มีถึง 80% ของผู้ที่เข้ามาดูศิลปะที่นี่ ต้องการดูเเค่โมนาลิซา เพียงอย่างเดียว…
เเต่ถ้าคุณมองว่า โมนาลิซาก็เเค่รูปธรรมดารูปหนึ่ง เเละไม่ได้ดีกว่าผลงานชิ้นอื่นของดาวินชีเลย คุณอาจจะลองดูเรื่องราว หรือหนทาง ที่ทำให้ผลงานศิลปะชิ้นนี้ เป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะชื่อเสียงเหล่านี้ อาจไม่เกิดขึ้นเลย ถ้ารูปนี้ไม่เคยถูกขโมยไป ?
ก่อนที่โมนาลิซาจะหายไป นักวิจารณ์ Water Pater หลงใหลงานชิ้นนี้แบบสุดๆ เขามองว่าเป็นงานศิลปะที่ คุ้มค่ามากๆในการเป็นเจ้าของ เเละด้วยความที่คลั่งไคล่ในงานนี้มากๆ เขาจึงเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า the renaissance ในปี 1873 ซึ่งถูกเขียนขึ้นหลังจากงานโมนาลิซาได้ถูกวาดมาเเล้วถึง 350 ปี ซึ่งหลักๆจะเล่าว่างานนี้สำคัญมากเเค่ไหนในยุควิคตอเรียน ในยุคที่งานศิลปะหาดูยากมากๆ เเละทำให้งานโมนาลิซา เป็นงานที่เปิดกว้างในการวิเคราะห์ตีความ เเนวเดียวกับภาพ The Last Supper เเต่นั้นก็ยังไม่ทำให้โมนาลิซา ดังสุดๆ ใน Louve เเต่ยังคงเป็นงาน ของ Raphael ที่มีชื่อเสียงกว่า ที่มีชื่อว่า The Sistine Madonna

โมนาลิซาได้ถูกโจรกรรมไปโดย Vincenzo Peruggia อดีตพนักงานของ Louve ในปี 1911 เขาขโมยเเละเอาไปเก็บเอาไว้ที่ห้องพักของเขา เเละตลอดเวลาที่หายไป 2 ปี นักข่าวซึ่งไม่รูว่าจะเขียนข่าว “ศิลปะ” ยังไงให้ดูน่าสนใจ เขาเลยเขียนข่าวประมาณว่า “ภาพเขียนที่มีชื่อเสียงที่สุดได้หายไป” ซึ่งบทความในข่าวหลายชิ้นจะอ้างอิงมาจากคำกล่าวของ Water Pater เเฟนตัวยงของภาพนี้ พวกเขาตีความไปว่าอาจจะเป็นรอยยิ้มของโมนาลิซา ที่ดึงดูดให้หัวขโมย คลั่งไคล่จนต้องขโมยไป ทำให้หลายๆคนสงสัยว่าภาพนี้มันมีหน้าตาเป็นยังไงกันเเน่ เเละตีความถึงปริศนาของรูปไปต่างๆนานา นักท่องเที่ยวมากมายได้เข้ามาที่ Louve ตั้งใจที่จะไปดู ตะขอเเขวนรูปที่ว่างเปล่า ที่ถูกพูดถึงในข่าว จึงเหมือนกับว่าช่วงเวลา 2 ปีที่โมนาลิซาหายไป คือ การโฆษณาตัวหนึ่งของ Louve ที่ทำให้ผู้คนติดตาม เเละอยากที่จะรู้ว่า เเท้จริงรูปโมนาลิซาเป็นรูปยังไงกันเเน่
จนเมื่อ Vincenzo ถูกจับ เขาเปิดเผยว่า จุดประสงค์ที่เขาขโมยไปไม่ใช่รอยยิ้มอะไรเเต่อย่างใด เเต่เป็นเพราะเขาอยากจะนำรูปกลับไปที่อีตาลี อันเป็นต้นกำเนิดของภาพเขียนนี้เท่านั้น หลังจากที่ภาพเขียนได้นำกลับมาที่ Louve มันจึงกลายเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงขึ้นมาเป็นเท่าตัว มากกว่าเเค่งานศิลปะ ข่าวทุกข่าว งานล้อเลียนต่างๆ สื่อทุกสื่อ เล่นเรื่องนี้ เเม้เเต่ประธานธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก็เคยกล่าวถึงโมนาลิซาออกสื่อ เเละผู้อ่านข่าวก็ชื่นชอบเรื่องราวลี้ลับของโมนาลิซา มากกว่า เหตุผลที่เเท้จริงของ Vincenzo ที่ดูเป็นการเมืองน่าเบื่อของพวกคลั่งชาติคนหนึ่ง
ดังนั้นโมนาลิซาจึงไม่ใช่เเค่งานศิลปะ ไม่ใช่เเค่เรื่องเทคนิค หรือวิธีการวาด เเต่มันคือเรื่องราวปริศนาต่างๆที่นักวิจารณ์ นักข่าว หรือผู้คนธรรมดา พยายามเเต่งเเต้มเข้าไปในงานศิลปะชิ้นนี้มากกว่า
Source : Vox
0 comments on “ทำไมต้องโมนาลิซา?”